ระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิวของเด็กไทยลดลง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของประเทศไทย แต่สามารถแก้ไขได้อย่างแยบยลด้วย หมากรุกไทย
ระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิวของเด็กไทยลดลง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของประเทศไทย แต่สามารถแก้ไขได้อย่างแยบยลด้วยเกมการเล่น ที่เรียกว่า หมากรุกไทยแทนที่พ่อแม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเรียนพิเศษ
เจนจิรา แก้วอุไร หนึ่งในคุณแม่ที่สนับสนุนให้ลูกเล่นหมากรุกไทย บอกว่า เหตุผลที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ดช. มกร สุทธิธรรมวสี ลูกชายวัย 6 ขวบฝึกฝนเล่นกีฬาชนิดนี้ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความสามัคคี สร้างภูมิคุ้มกันให้กับสถาบันครอบครัวแล้วยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงทำให้ลูกได้พัฒนาศักยภาพด้านการวางแผน คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างมีเหตุมีผล
กระตุ้นไอคิว อีคิว
" เป็นเกมที่ทำให้เด็กไทยและผู้ใหญ่ ได้มองอะไรให้ไกลๆ ไม่ใช่แค่มองผ่านไปแต่ละชอตแต่ละที สอนให้รู้จักเงียบและหัดฟังตนเองเพื่อให้เข้าใจและมองเกมที่กำลงจะเดินนั้นได้อย่างถูกต้อง "นอกจากเป็นกีฬาอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ลูกชายห่างไกลจากปัญหามั่วสุมยาเสพติด ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบันที่พ่อแม่ทุกคนเป็นห่วง
“ โชคดีที่เขา เห็นพ่อเล่นหมากรุกไทยจึงสนใจเล่นจนกระทั่งได้มีโอกาสแข่งขันได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี ทำให้เขาชอบเล่นหมากรุกไทยพอๆกับเล่นฟุตบอล สังเกตได้ว่ามกรมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น"
เจนจิรา มองว่า การเล่นหมากรุกไทยเป็นกิจกรรมที่ทำให้ลูกชายรู้จักช่วยเหลือตัวเองและได้ฝึกทักษะต่างๆมากมาย เช่น การพัฒนากล้ามเนื้อ การเจริญเติบโต การสร้างไหวพริบ จินตนาการในการวางแผนและการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นดีขึ้น
สุชาติ ชัยวิชิต หรือ อาจารย์ "ป๋อง" เซียนหมากรุกไทยชื่อดัง บอกว่า คนเล่นหมากรุกไทยจะมีความคิดเป็นระบบ คำนวณเก่ง สติปัญญาดีโดยเฉพาะด้านความจำจะเป็นเลิศ ซึ่งคนที่สนใจสามารถเข้ามาเล่นได้โดยไม่จำกัดอายุแต่ถ้าฝึกเล่นตั้งแต่เด็กจะเรียนรู้ได้เร็ว ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้กระทรวงศึกษาธิการ นำกีฬาชนิดนี้บรรจุลงในหลักสูตรเปิดไว้ให้เด็กที่สนใจลงเรียน เพราะถือเป็นกีฬาประจำชาติ ควรช่วยกันอนุรักษ์
“หมากรุกไทยช่วยให้คนใจเย็น ไม่วู่วาม ยกตัวอย่างผมเองเป็นคนใจร้อน แต่พอมาเล่นหมากรุกไทยช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปได้เยอะ รู้จักอดทนอดกลั้น “
จากประสบการณ์ 40ปีในการเล่นหมากรุกไทย ตั้งแต่สมัยตัวหมากรุกยังเป็นไม้ เซียนป๋อง ได้เห็นพัฒนาการในวงการหมากรุกไทยว่า ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น บางคนเล่นได้ดีกว่าผู้ชาย เพราะสมาธิดีกว่า แต่เพศไม่ได้บ่งบอกสไตล์การเล่นได้ชัดเจนเท่ากับอุปนิสัยของคน ๆนั้น ถ้าคนชอบบู๊จะมีสไตล์การเล่นเหมือนกับมวยรุก ที่ชอบวิ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ แต่ถ้าเป็นคนใจเย็น สไตล์การเล่นจะนิ่ง
สานความสัมพันธ์
อาจารย์ ป๋อง บอกว่า คนที่เล่นหมากรุกไทยแล้วมีพฤติกรรมดีขึ้นได้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาเรียนรู้เข้าถึงแก่นกีฬาหมากรุก ซึ่งเด็กสมัยนี้สามารถเรียนรู้ได้ง่ายกว่าเด็กสมัยก่อนเพราะมีตำรา ให้ศึกษาเรียนรู้ ก้าวหน้าเยอะ ผิดกับสมัยก่อนที่คนสอนจะหวงวิชา ส่วนจะเป็นหมากรุกชาติไหนก็เหมือนกัน แต่ละประเทศจะมีประวัติศาสตร์ของเขา หมากรุกไทยก็เหมือนกัน ขุนเวลาเดินทัพ เปรียบเสมือนเวลาทำสงครามกษัตรย์ต้องเดินทัพ โดยเป็นแม่ทัพเอง
“คนที่ไปเล่นหมากรุกสากล ได้ติดทีมชาติควรมีพื้นฐานมาจากหมากรุกไทยก่อน เพื่อฝึกความแข็งแกร่ง เหมือนมวย อย่างหมากรุกไทย การเดินขุนของเราเก่ง สมาธิของเราก็ดี บางคนที่ไปฝึกสากลเลยนานกว่าจะเก่ง เมื่อเทียบกับคนที่มีพื้นฐานหมากรุกไทยเพราะระบบความคิดคล้ายคลึงกัน แต่แตกต่างกันในรายละเอียด จึงอยากฝากให้เด็กๆ หรือผู้สนใจกล้าที่จะเข้ามาเล่น แม้จะเป็นวัยกลางคนก็สามารถเล่นได้ไม่ต้องอาย เพราะสมัยนี้มีเวทีการแข่งขันเปิดกว้างให้กับผู้สนใจเข้ามาร่วม ถ้าเข้ามาอยู่ในวงการจะได้เพื่อนหลากหลายเพิ่มขึ้น”
ปัจจุบันเกมการเล่นชนิดนี้ นับวันยิ่งจะเลือนหายไปจากสังคมไทย อยากให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสาน เพื่อให้เยาวชนไทยได้ตระหนัก และได้รู้จักกีฬาดังเดิมของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรู้จักนำกลวิธี ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิต เพราะหมากรุกไม่เพียงเฉพาะเป็นเกมการเล่นเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนการทำศึกสงคราม การตัดสินใจเดินหมากแต่ละตัว ถ้าเมื่อใดวางแผนหรือเดินผิด นั่นหมายถึงการขาดความรอบคอบและพ่ายแพ้ในที่สุด ดังนั้นกีฬาชนิดนี้จึงช่วยให้คนได้พัฒนาความคิดได้เป็นอย่างดี
"ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกบ้านมีกระดานหมากรุกไว้ บ้านละหนึ่งกระดาน ซึ่งจะสามารถใช้เป็นกิจกรรมยามว่าง รวมทั้งทำให้เกิดความสามัคคีภายในครอบครัว เพื่อให้เด็กได้ใกล้ชิดและศึกษาอย่างจริงจัง เพราะส่วนมากเด็กที่เล่นหมากรุก มักจะเป็นเด็กฉลาด เอาตัวรอดได้มากกว่าเด็กคนอื่นๆ" เซียนป๋องกล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณที่มาจาก http://www.bangkokbiznews.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น